วัคซีนลูกรัก พรีเมียม

ให้ลูกน้อยของคุณแข็งแรงตั้งแต่เริ่มต้น คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจกังวลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนให้กับลูกน้อย
โดยเฉพาะในช่วงปีแรกที่มีการพัฒนาร่างกายอย่างรวดเร็ว การฉีดวัคซีนที่ถูกต้องและทันเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเขา

เหตุผลที่ต้องฉีดวัคซีนให้ลูกน้อย

• ป้องกันการติดเชื้อร้ายแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
• ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในกลุ่มโรคที่อันตราย เช่น ไข้สมองอักเสบ และโรคหัด

วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (Diphtheria-Tetanus-Pertussis Vaccine) หรือ DTP
เป็นวัคซีนรวมที่มีคุณสมบัติสามารถป้องกันได้ครอบคลุมได้ทั้ง 3 โรค
วัคซีน DTP มี 3 แบบ ได้แก่ DTwP, DTaP และ Tdap มีรายละเอียดดังนี้

• สำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 7 ปี สามารถเลือกฉีดวัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ชนิด DTwP หรือ DTaP ก็ได้ โดยชนิด DTaP จะมีราคาแพงกว่า แต่มีผลข้างเคียงน้อยกว่า
• สำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า 7 ปี และผู้ใหญ่ สามารถฉีดวัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ชนิด Tdap ได้ โดยเป็นวัคซีนชนิดเดียวกับ DTaP แต่ปรับขนาดของแอนติเจนของเชื้อคอตีบและไอกรนให้เหมาะกับเด็กโตและผู้ใหญ่
• เด็กที่มีอายุมากกว่า 2 เดือน แต่น้อยกว่า 6 ปี สามารถเริ่มฉีดวัคซีนได้ทันที โดยฉีดทั้งหมด 5 เข็ม ห่างกัน 2 เดือน และฉีดกระตุ้นอีก 1 ครั้ง หลังจากฉีดครบชุดไปแล้ว 1-2 ปี

วัคซีนไวรัสตับอักเสบ บี (Hepatitis B Vaccine หรือ HB)
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบชนิดบี เป็นวัคซีนที่ปลอดภัยและได้ผลดีในการป้องกันการติดเชื้อ แนะนำให้ฉีดในทารกแรกเกิด และเด็กจนถึงอายุ 18 ปี นอกจากนี้ยังแนะนำให้ฉีดในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคเรื้อรัง และผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี

วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน (Measles-Mumps-Rubella Vaccine) หรือ MMR เป็นวัคซีนรวมที่มีคุณสมบัติสามารถป้องกันได้ครอบคลุมได้ทั้ง 3 โรค โดยจะผสมรวมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม ให้ประสิทธิภาพไม่น้อยกว่าการฉีดวัคซีนแยกแต่ละโรค ช่วยลดความเจ็บปวดจากการต้องฉีดวัคซีนหลายเข็ม